ชายชาวอเมริกัน กับ 6 วันต่อสัปดาห์ ระยะเวลา 6 ปี ในซอยพัฒน์พงศ์และนี่คือศิลปะที่เขาถ่ายทอดออกมา “Patpong Dangerous” คือ นิทรรศการศิลปะ ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวของสาว Agogo-Bar ผ่านมิติของความสัมพันธ์ ที่ศิลปินกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าสาวๆเหล่านั้น คือ “เพื่อน” ของเขา Bangkok7 คือ ชื่อในวงการของศิลปินชาวอเมริกัน ที่ใช้ชิวิตอยู่ในเมืองไทยมา 6 ปี และใช้เวลายามค่ำคืน 6 คืนต่อสัปดาห์ อยู่ใน Agogo Bar ในซอยพัฒน์พงศ์ “พัฒน์พงศ์ค่อนข้างน่ารักกับผม” นี่คือคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า ทำไมคุณถึงชอบมาเที่ยวพัฒน์พงศ์ ทั้งๆที่มีสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีมากมาย สำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ? ชายชาวอเมริกันขยับตัวเข้ามาหาฉันเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มเล่าความรู้สึกที่เขามีต่อสถานที่แห่งนี้ ท่ามกลางผนังสีแดงที่ล้อเล่นกับแสงไฟสีเหลืองนวลของ Candle Light Studio ในซอยพัฒน์พงศ์ ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เขาจัดนิทรรศการศิลปะ “Patpong Dangerous” ขึ้นในค่ำคืนนี้ “พัฒน์พงศ์มีอะไรให้ทำหลายอย่างนะสำหรับผม คุณสามารถใช้เวลา และใช้ซอยนี้เป็นที่ Hangout ในวันๆนึงได้ มันมีพิพิธภัณฑ์ มี Foodland มีร้านอาหารฝรั่งเศสเก่าแก่ มี Bar มีคลับ ผู้คนที่นี่น่ารักนะ สำหรับผม” “จริงเหรอ ? ในฐานะคนๆไทยที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนไทยคิดแน่ๆ” ฉันตอบพลางยิ้มน้อยๆ และหลังจบประโยค เราต่างระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน สำหรับหลายๆคน พัฒน์พงศ์เป็นซอยที่ไม่ค่อยมีคนอยากเดินเข้ามา ถ้าเดินผ่านปากซอยก็ต้องรีบจ้ำหนี ฉันเองก็เป็นหนึ่งในคนที่รู้สึกแบบนั้นเมื่อก่อน ต่างกับฉันในปัจจุบัน ที่ใช้เวลาอยู่ในพัฒน์พงศ์มากจนแทบจะย้ายมากินนอนอยู่ที่นี่ “คุณไม่หมดตัวหรือรู้สึกอึดอัดใจเหรอ ? ที่เข้ามาในพัฒน์พงศ์ และต้องใช้จ่ายกับสาวๆเยอะมากแน่ๆในแต่ละค่ำคืน ?” ฉันพยายามใช้คำถามอย่างระมัดระวัง “เธอแค่ทำงานของเธอ เหมือนที่ผมทำงาน เหมือนที่คุณทำงาน เหมือนทุกๆคนที่ทำงาน เพื่อนำเงินที่ได้จากการทำงาน ไปเลี้ยงดูครอบครัว ทำไมผมต้องอึดอัด พวกเธอน่ารัก และมีชีวิตที่ไม่ได้สวยงาม แต่เธอคือสิ่งสวยงาม” เมื่อคุณมองทุกคนด้วยระนาบเดียวกับสายตาคุณ นี่คือสิ่งที่คุณจะเห็น หลายคนมองผู้หญิงเหล่านี้ด้วยสายตาที่มองลงมาจากอีกชนชั้นหนึ่ง จึงเต็มไปด้วยความรู้สึกต่างๆที่ผสมปนเป นั่นทำให้มันเป็นเรื่องยาก ที่เขาจะทำความเข้าใจถึงการเป็น “คนเหมือนกัน” “คุณเห็นผู้หญิงคนที่นั่งตรงนี้ไหม ที่มีรอยสักสวยๆที่หน้าอกเธอ” เขาพูดพลางทำท่าทางประกอบ ชี้ไปยังเก้าอี้ที่ก่อนหน้านี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ ฉันพยักหน้าทำท่าทางเข้าใจ พลางนึกถึงหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้ง ที่มีรอยสักโดดเด่นสวยงาม ยังดูเยาว์วัย ท่าทางร่าเริงเป็นมิตร จนฉันยังอดเอ็นดูไม่ได้ “เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอท้องกับแฟนเธอซึ่งเลิกกันไปแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเป็นสาวอะโกโก้ แต่ตอนนี้เธอเลิกแล้วนะ เพราะต้องไปช่วยแม่ขายก๋วยเตี๋ยว แม่เธอแก่และเจ็บเข่าแถมสุขภาพไม่ค่อยดี เธอเลี้ยงดูแลแม่ ขายก๋วยเตี๋ยว และคลอดลูกก่อนกำหนด ลูกของเธอต้องอยู่ในตู้อบ และอยู่ในโรงพยาบาลหลายวันมากๆ พ่อเธอเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อที่จะเยี่ยมเธอและลูก เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตระหว่างเดินทาง และนั่นคือเธอ ที่นั่งอยู่ตรงนั้น เธอเดินทางมาร่วมงานนี้ เพื่อแลกกับค่าตอบแทนเล็กน้อย มาแสดงความยินดีในฐานะเพื่อนของผม เพราะเธอเป็นส่วนหนึ่งของภาพเหล่านั้น” “…………………………………………….” ช่วงเวลาเงียบงันของผู้สัมภาษณ์ และผู้ถูกสัมภาษณ์ ฉันนิ่งงันไปและนึกภาพผู้หญิง ที่ยังดูเด็กน่าจะอ่อนกว่าฉันหลายปี กับสิ่งที่เธอต้องเจอ…ฉันนิ่งงันไปหลายอึดใจ เป็นความอึดอัดระหว่างวัฒนธรรมสำหรับคนที่ภาษาอังกฤษไม่ได้ดีนัก และไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไร เพื่อแสดงความรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ “ผมแค่คิดว่า Sex Worker คืออาชีพ อาชีพหนึ่ง ที่ควรได้รับการยอมรับและสวัสดิการที่ดี และเธอก็คือคนๆหนึ่ง ที่ทำเพื่อชีวิตและครอบครัวของเธอ เช่นเดียวกับทุกๆคน พวกเธอเป็นเพื่อนของผม เรารู้จักกันมานานหลายปี มีมิตรภาพที่ดีต่อกันเกินกว่าลูกค้าและสาวอะโกโก้ เรามีมิติของความสัมพันธ์ที่ผูกพันธ์กันเพียงพอที่จะเอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบ บอกเล่าเรื่องราวชีวิตกันและกัน” ฉันพยักหน้า เพื่อสื่อสารทางกายให้เขารับรู้ว่าฉันกำลังฟัง “สิ่งที่คนคิด สิ่งที่คนรู้สึกกลัว หรือแม้กระทั่งความรู้สึกดูถูกเหยียดหยาม มันเป็นเพียงด้านหนึ่งของเธอเท่านั้น มันมีอีกด้าน ที่เธอเป็นคนธรรมดา เธอเป็นแม่ของลูกคนหนึ่ง เป็นลูกสาวที่ต้องทำงานเพื่อดูแลครอบครัว เป็นสิ่งสวยงามและมีความเป็นมนุษย์เท่ากันกับทุกๆคน” Bangkok7 คือศิลปินที่ได้กระเทาะเปลือกความคิดอีกชั้น เข้าไปสู่ความสวยงามของด้านหนึ่ง ของมนุษย์ผู้ล้วนทำมาหากินดิ้นรนเอาชีวิตรอด ในต่างวาระโอกาสกัน….—————————————ข้อมูลจากผู้จัดงาน Patpong Museum x Bangkok Seven ขอนำเสนอนักเต้นอะโกโก้ในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน กับงาน “Patpong Dangerous” นิทรรศการแรกจากศิลปินยุค (เสื่อม)​ ของพัฒน์พงศ์ ในวันที่ 27 พฤศจิกายน นี้ เวลา 2 ทุ่มตรง หรือ 20.00 น. ที่ “Candle Light Studio” Patpong Soi 2งานนี้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายภายในงานจะมีการจัดจำหน่ายสินค้างานศิลปะต่างๆ โดยผลกำไรทั้งหมดจะถูกนำไปช่วยเหลือให้กับศิลปิน นางแบบที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19ช่องทางการติดต่อFacebook : https://www.facebook.com/patpongmuseumWebsite : https://www.patpongmuseum.com/th/E-mail : info@patpongmuseum.comTel. : 0918876829#พิพิธภัณฑ์พัฒน์พงศ์#patpongmuseum#พัฒน์พงศ์